ประมวลภาพกิจกรรม MINI SUMMER CAMP

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551

โดราเอมอน (ตัวละคร)

โดราเอมอน หรือ โดเรมอน (「ドラえもん」, Dora'emon, – โดะระเอะมง?) เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 22เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 (ค.ศ. 2112) ลักษณะตัวอ้วนกลมสีฟ้า (เมื่อแรกเกิดมามีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อโดราเอมอนมาคือเซวาชิเหลนชายของโนบิตะ วันหนึ่งเซวาชิเกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้กลับไปในอดีตด้วยไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่าโนบิตะ (ผู้เป็นปู่ทวด) เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอมอนย้อนเวลาไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้งโดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋าสี่มิติ

เเรงบันดาลใจ

ตัวละครโดราเอมอนนั้น ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เนื่องจากนักวาดการ์ตูนทั้ง 2 ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ได้ลงโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาทั้งสองไว้ว่าจะมีตัวเอกที่ออกมาจากลิ้นชัก ในนิตยสารการ์ตูนฉบับต้อนรับปีใหม่ แต่ในความจริงแล้วทั้งสองยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งต้นฉบับก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก

ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ หนึ่งในนักวาดการ์ตูน ได้เผอิญเห็นแมวจรจัดที่มักแอบเข้ามาเล่นที่บ้านของตนเองเป็นประจำ เขามักจะชอบจับแมวตัวนี้มาหาหมัด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 4.00 น. ก็ยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องใหม่ ทำให้ฮิโรชิโมโหตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดเลยเถิดไปว่าโลกนี้น่าจะมีไทม์แมชชีน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต หลังจากนั้นฮิโรชิได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้เขาตกใจว่าตนเองเผลอหลับไป จึงรีบวิ่งลงจากบันไดบ้านไปสะดุดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นของลูกสาวที่ตกอยู่บนพื้น

เหตุนี้เองทำให้ฮิโรชิเกิดไอเดียขึ้นโดยนำหน้าแมวจรจัดมาผสมกับตุ๊กตาญี่ปุ่น สร้างออกมาเป็นตัวละครหุ่นยนต์แมวจากอนาคตคอยช่วยเหลือเด็กชายที่แสนจะไม่ได้เรื่อง และตั้งชื่อว่า โดราเอมอน เป็นคำผสมระหว่าง "โดราเนโกะ" กับ "เอมอน" ในภาษาญี่ปุ่น โดราเนโกะนั้นแปลว่าแมวหลงทาง ส่วนคำว่า "เอมอน" เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนของประเทศญี่ปุ่น

ต้นกำเนิด

โดราเอมอนถูกผลิตขึ้นในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้โดราเอมอนมีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ (และได้พบกับเพื่อนๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอมอน ที่นั่น) จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน "โรบ็อต ออดิชัน" ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โดราเอมอนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานะของหุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก (จากตอนพิเศษ "กำเนิดโดราเอมอน ปี 2112") แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน

แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอมอนไม่มีหู เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอมอนหยิบผิดกินยาโศกเศร้าแทน ทำให้โศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่าที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียดและกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก

นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ

ข้อมูลจำเพาะของโดราเอมอน

เป็นความตั้งใจของผู้วาดการ์ตูนที่ใช้ตัวเลข 3-9-12 กับตัวละครนี้ โดราเอมอนจึงมีอะไรหลายอย่างกี่ยวกับตัวเลขชุดนี้

มีน้ำหนัก 129.3 กิโลกรัม
ความสูง 129.3 เซนติเมตร (แต่เวลานั่ง จะเหลือ 100 เซนติเมตร)
กระโดดได้สูง 129.3 เซนติเมตร (เวลาเจอหนู)
มีพละกำลัง 129.3 แรงม้า
วัดรอบหัว รอบอก รอบเอวได้ 129.3 เซนติเมตร
วิ่งปกติในระยะ 50 เมตรใช้เวลา 15 วินาที แต่ถ้าเจอหนูจะวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วันที่ผลิตคือ ปีที่ 12 เดือน 9 วันที่ 3 (เรียงแบบปฏิทินญี่ปุ่น)

ส่วนประกอบในร่างกาย

เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์แมวที่ผลิตขึ้นในอนาคตคือคริสต์ศตวรรษที่ 22ตามจินตนการของผู้แต่งและวาดการ์ตูน โดราเอมอนจึงผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมีความคุณสมบัติดังต่อไปนี้

ตา
ตาแสงอินฟราเรด สามารถมองเห็นได้แม้แต่ในที่มืด
จมูก
มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีแดง เหมือนกับปลายหาง มีความไวในการรับรู้กลิ่นได้ไวกว่ามนุษย์ 20 เท่า แต่ปัจจุบันชำรุดเพราะตอนผลิตในโรงงานชิ้นส่วนหลุดไป 1 ชิ้น จึงสามารถดมกลิ่นได้เท่าจมูกคนเท่านั้น
หนวด
มี 6 เส้น เป็นหนวดเรดาร์ สามารถจับวัตถุระยะไกลได้ แต่อยู่ระหว่างรอซ่อมแซมเพราะตอนผลิตในโรงงานชิ้นส่วนหลุดไป 1 ชิ้น
ร่างกาย
ผิวหนังเป็นโลหะผสมพิเศษต้านแรงดึงดูด ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถจับเกาะได้ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูง แม้อยู่ในอวกาศหรือใต้ทะเลลึกก็ไม่เป็นปัญหา (จากตอนพิเศษ "ตะลุยปราสาทใต้สมุทร") โดนของเหลวคล้ายกรดสาดใส่ก็ไม่ละลาย (จากตอนพิเศษ "ไซอิ๋ว") แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างเช่นกัน คือ แพ้อากาศร้อน (จากตอนพิเศษ "ตะลุยปราสาทใต้สมุทร") และแพ้อากาศหนาว จนถึงขั้นเป็นหวัดได้ (จากตอน "นางฟ้านำทาง") หากโดนไฟฟ้าช็อตก็จะเสียหาย (จากตอนพิเศษ "บุกอาณาจักรเมฆ" และ "ฝ่าแดนเขาวงกต")
มือ
รูปร่างกลมสีขาวไม่มีนิ้วมือ จึงไม่สามารถเล่นพันด้าย และเป่ายิ้งฉุบได้ แต่ก็สามารถดูดจับสิ่งของได้ทุกอย่าง จริงๆ แล้วโดราเอมอนถนัดทั้ง 2 มือ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้แต่มือขวา ไม่ค่อยใช้มือซ้ายเท่าไหร่นัก
ปาก
ปากขนาดกว้าง สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยจะเปลี่ยนเป็นพลังงานปรมาณู ภายในปากจะมีฟันที่เรียกว่า "ฟู้ดคัตเตอร์" ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะเวลาที่โดราเอมอนโกรธจนต้องยิงฟันเท่านั้น แต่ในตอนพิเศษ "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006" โดราเอมอนกลับถูกวาดให้มองเห็นซี่ฟันอย่างชัดเจน
กระพรวน
ไว้ห้อยคอ มีสีเหลือง ส่วนสายคาดมีสีแดง เมื่อสั่นกระพรวนจะสามารถเรียกแมวที่อยู่ใกล้เคียงมาชุมนุมกันได้ โดยจะปล่อยคลื่นเสียงพิเศษ แต่น่าเสียดายตอนนี้ใช้งานไม่ได้เพราะตอนผลิตในโรงงานชิ้นส่วนหลุดไป 1 ชิ้น



กระเป๋าหน้าท้อง
กระเป๋าสี่มิติ ไว้สำหรับเก็บของวิเศษ พื้นที่เก็บของไม่มีจำกัด สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ โดยระหว่างนั้นจะนำกระเป๋าสี่มิติใบสำรอง หรือที่มักเรียกว่า "กระเป๋าสำรอง" มาใช้แทน ซึ่งกระเป๋าทั้งสอง จะมีมิติที่เชื่อมต่อกัน ของที่เอาใส่ในกระเป๋าใบหนึ่ง จะสามารถนำออกมาจากกระเป๋าอีกใบหนึ่งได้
เท้า
ลักษณะแบนเรียบ สีขาว มีพลังต้านแรงดึงดูด ส่งผลให้เท้าอยู่ลอยจากพื้น 3 มิลลิเมตร เลยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าเพราะไม่มีฝุ่นผงติดเท้า เดิมทีเท้าของโดราเอมอนจะเป็นแบบที่สามารถเดินได้โดยไม่มีเสียงเหมือนกับแมวย่อง แต่ปัจจุบันชำรุดไปแล้ว ทำให้เวลาเดินจึงมีเสียงจากแรงเสียดสีกับอากาศ เพราะตอนผลิตในโรงงานชิ้นส่วนหลุดไป 1 ชิ้น
สำหรับเวลาขี่จักรยานต้องใช้ปากจับแฮนด์ และใช้มือถีบที่ปั่นจักรยานแทน เนื่องจากขาหยั่งไม่ถึง (จากตอน "จิโซ เทพเด็กทิ่มสวรรค์")
หาง
เป็นสวิตช์ปิด-เปิด ถ้าถูกดึง ทุกอย่างจะหยุดทำงาน โดราเอมอนสามารถดึงหางเพื่อปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ไม่สามารถดึงเพื่อเปิดเองได้

สิ่งที่ชอบ-เกลียด

สิ่งที่ชอบที่สุดคือขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยสามารถกินโดรายากิขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมด และเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้ว สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอมอนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว "โนราเมียโกะ" มันจึงกลายเป็นของโปรดของเขามาตั้งแต่บัดนั้น เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่ามีร้านค้าร้านไหนที่ขายโดรายากิลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี้เอง จึงทำให้โดราเอมอนให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก เขามักจะมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขายขนมบ่อยครั้ง ในเวลาที่ทางร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไป

นอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอมอนชอบก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอมอนได้กิน ก็บอกว่า อร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้วยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว

ส่วนสิ่งที่โดราเอมอนเกลียดและกลัวที่สุดคือ หนูเพราะเคยโดนหนูกัดหูจนหูแหว่งไปทั้ง 2 ข้างตอนหลับ นอกจากนั้นยังกลัว แฮมสเตอร์ ด้วย (จากตอนพิเศษ "กำเนิดประเทศญี่ปุ่น") เพราะโดราเอมอนถือว่าเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู

ชื่อเรียกในภาษาต่างๆ

โดราเอมอนมีการตีพิมพ์ไปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บางครั้งอาจจะมีมีการเรียกโดราเอมอนต่างกันในแต่ละภาษา

ภาษาจีนกลาง - 小叮当 (Xiǎo Dīng Dāng, เสี่ยวติงตัง ) หรือ 机械猫 (Jīxièmāo) หรือ 机器猫 (Jīqìmāo)
ภาษาจีนกวางตุ้ง ในประเทศฮ่องกง - 多啦A夢 (ตั๊วะหลาเอม่ง) แต่ก็นิยมเรียกว่า 叮噹 (Ding Dong)
ภาษาเวียดนาม - Đôrêmon
ภาษาจีนกลาง ในประเทศไต้หวัน - 哆啦A夢 แต่ก็นิยมเรียกว่า 小叮噹
ภาษาตากาล็อก - Damulag
ภาษาเกาหลี - ฉบับไพเรทใช้ชื่อว่า 동짜몽 (toŋ't∫amoŋ) ส่วนฉบับลิขสิทธิ์ใช้ชื่อว่า 동짜몽 도라에몽 (toraemoŋ)
ภาษามาเลย์- Doraemon แต่ออกเสียงว่า โดเรมอน (do.re.mon)
นอกจากนี้ในภาษาฮินดี และภาษาอินโดนีเซีย ยังคงเรียก Doraemon ตามต้นฉบับ